“คนรัสเซียในไทย” ได้ยินคำนี้ทีไรก็นึกถึงแต่คนรัสเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวตามชายหาดดัง ๆ ไม่ก็นักท่องเที่ยวที่หาวิธีย้ายถิ่นฐานมาอยู่ไทยทั้งถูกและผิดกฎหมาย เพราะค่าเงินที่แตกต่างทำให้พวกเขามีความเป็นอยู่ที่สบายกว่าแผ่นดินบ้านเกิดและความอบอุ่นของอากาศที่พวกเขาชื่นชอบ นอกเหนือจากนี้ยังมีคนรัสเซียอีกหลายคนที่มาที่นี่เพราะหลบหนีสงคราม
แต่ เวร่า แสงเนตรสว่าง หรือ Vera Saengnateswang อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษารัสเซียที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัย 32 ปี เป็นคนรัสเซียคนแรก ๆ ที่เรารู้จักและมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพราะอยากทำงานในไทยจริง ๆ
เธอเกิดในเกาะที่มีทรัพยากรน้ำมันดิบเยอะที่สุดในรัสเซีย ตอนนั้นมีบริษัทอเมริกันมากมายที่พร้อมจะจ้างเธอด้วยความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษได้ดีตั้งแต่เด็ก โอกาสในการทำงานในบริษัทน้ำมันดัง ๆ มีมากมายแต่เธอกลับเลือกเรียนภาษาไทย ย้ายมาอยู่ไทยและเซ็นสัญญาเพื่อเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ต่ออีก 2 ปี เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เราจะคุยกัน
เราใช้เวลานั่งคุยกันเกือบ 2 ชั่วโมงในห้องพักอาจารย์ที่คณะศิลป์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยให้สัมภาษณ์เรื่องชีวิตของเธอ
วันนี้เราอยากพาคุณมารู้จักกับคนรัสเซียในแง่มุมอื่นที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวบ้าง
รู้จักประเทศไทยได้อย่างไร
รู้จักประเทศไทยตอนที่กำลังสมัครเรียนมหาลัยค่ะ (หัวเราะ)
ที่รัสเซียหลังจากเรียนจบมัธยมปลายจะมีการสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นอาจารย์อยากเรียนเกี่ยวกับภาษาตะวันออก มีคนแนะนำให้ไปสมัครที่ Far Eastern Federal University ที่ วลาดีวอสตอค
ตอนนั้นเข้าไปในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย มีภาษาให้เลือกเยอะมากค่ะ ตัดภาษาที่ไม่ได้สนใจออกแล้วเหลือ 2 ตัวเลือกคือภาษาเวียดนามกับภาษาไทย อาจารย์จึงเอาไปถามพ่อว่าเลือกเรียนภาษาอะไรดี พ่อของอาจารย์เกิดในสมัยโซเวียตค่ะเลยรู้จักประเทศเวียดนามเป็นอย่างดี ตอนนั้นพ่อให้เลือกภาษาเวียดนามค่ะ
อ้าว แล้วอะไรทำให้ตัดสินใจเรียนภาษาไทย
ไม่แน่ใจนะคะจะตอบยังไงดี อาจารย์เข้าไปดูในเว็บไซต์ใช่ไหมคะ ไม่รู้ทำไมในความรู้สึกตอนนั้นตัวเลือกวิชาภาษาไทยมัน วิบวับ ๆ ขึ้นมา อาจจะเป็นโชคชะตานำพามั้งคะ (หัวเราะ)
อีกอย่างคือดูดวงมา อาจารย์เกิดเดือนกุมภาพันธ์ เขาว่าจะเข้ากับอากาศร้อนได้ดีค่ะ แต่ก็จริง ๆ นะ มาอยู่ที่นี่ไม่คัดจมูกอีกเลย
แต่เรียนต่อถึงปริญญาเอกเลยนะ
ตอนเรียนปริญญาตรีควบโทอยู่ ได้มีโอกาสเรียนวิชาวรรณคดีไทยค่ะ อาจารย์ได้อ่านวรรณคดีที่ชื่อว่า โคลงกำสรวลศรีปราชญ์ แล้วอาจารย์ก็คิดว่า โอ้โห … นี่โรแมนติกมากเลย เป็นจุดเริ่มต้นให้อาจารย์ตกหลุมรักวรรณคดีไทย เลยบอกเพื่อนว่าจะทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ห้ามใครแย่ง (หัวเราะ)
หลังจากเรียนปริญญาตรีควบโทจบก็มีความคิดว่าอยากเรียนปริญญาเอกด้านวรรณคดีไทยต่อ จึงพยายามหาที่เรียนต่อ แต่ว่ามหาวิทยาลัยที่มีที่ปรึกษาเกี่ยวกับวรรณคดีไทยหายากมากค่ะ โทรหามหาวิทยาลัยเยอะมาก หลายมหาวิทยาลัยบอกว่าเนื่องจากอาจารย์เรียนดีเขายินดีจะรับเข้าเรียนแต่ต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาเอง โทรจนเริ่มคิดว่าครั้งนี้จะเป็นสายสุดท้ายแล้ว ถ้ายังไม่ได้ จะกลับไปทำงานเป็นล่ามที่บ้านเกิดแล้วค่ะ
สุดท้ายโชคชะตาพาอาจารย์ไปไหน
คำนวณเวลาที่ต้องโทรหามหาวิทยาลัยเพราะตอนนั้นยังอยู่ที่วลาดีวอสตอค ซึ่งเวลาห่างจากมอสโคว 8 ชั่วโมงอาจารย์โทรไปที่สถาบันตะวันออกแห่งมอสโคว เขารับโทรศัพท์และเราคุยกันแค่ 10 นาที พวกเขาบอกว่าได้สิ มาสมัครได้เลย เราจะให้ทุนเต็มจำนวนคุณด้วย เราคุยกันแค่ 10 นาทีเขาก็มอบทุนเต็มจำนวนให้ ตอนนั้นรู้สึกอัศจรรย์มากค่ะ ดีใจมาก ๆ ที่จะได้ที่เรียนสักทีค่ะ
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจย้ายมาทำงานในไทย
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจย้ายมาทำงานในไทยคือโอกาสได้ประสบการณ์การสอนในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างใหม่ค่ะ นอกจากนี้ อาจารย์ยังสนใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับนักเรียนและร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานจากประเทศไทย
นี่คือช่วงใหม่ในเส้นทางอาชีพของอาจารย์ อาจารย์มีความฝันมานานที่จะสอนวิชาที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย โดยเฉพาะการสอนภาษาให้กับนักเรียนไทย ไม่ใช่แค่ในรัสเซียระหว่างที่นักเรียนมาแลกเปลี่ยนในระยะสั้น แต่ในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและในระยะยาว
นอกจากนี้ ความปรารถนาในการทำงานที่ไทยยังมาจากการที่อาจารย์มีการศึกษาในด้านการสอนภาษาไทยและวรรณกรรมไทย อาจารย์ต้องการนำความสนใจทั้งสองนี้ (ภาษารัสเซียและภาษาไทย) มาบรรจบกันในประเทศไทย เนื่องจากอาจารย์มีประสบการณ์ในการทำเช่นนี้ที่รัสเซียแล้ว
การใช้ชีวิตในประเทศไทยยังเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาทักษะทางภาษาและเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้งอีกด้วย
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีคนรัสเซียจำนวนมากเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มมากขึ้นเยอะ
คุณก็คงจะทราบถึงสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนนะคะ ในช่วงปีแรกที่มีสงครามรัฐบาลรัสเซียยังไม่ประกาศว่าจะมีการเกณฑ์ทหาร แต่ภายหลังมีการประกาศว่าจะมีการเกณฑ์คนเพื่อไปช่วงในสงครามช่วงนั้นมีคนรัสเซียจำนวนมากที่พยายามออกนอกประเทศ
โดยวิธีการคือเขาจะเดินทางไปประเทศที่มีดินแดนติดกับประเทศรัสเซียหรือที่คนรัสเซียสามารถเดินทางไปได้ง่าย และเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ค่ะ เช่นมาประเทศไทยหรือตุรกี ก่อนหน้านี้คนรัสเซียอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วันค่ะแต่ปัจจุบันอยู่ได้ถึง 60 วันและเขาจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อหาทางอยู่ในประเทศไทยต่อค่ะ
เคยรู้สึกหรือได้รับทัศนคติที่ไม่จากคนไทยหลังจากทราบว่าเป็นคนรัสเซียไหม
ไม่แน่ใจว่านี่คือโชคดีหรือโชคร้าย แต่ไม่ค่อยได้พบคนไทยที่มีทัศนคติในแง่ลบต่อชาวรัสเซียเลย บางครั้งเมื่อคนไทยรู้ว่าอาจารย์เป็นคนรัสเซีย พวกเขามักนึกถึงมาเฟียรัสเซีย, FSB, สายลับ และอื่น ๆ และบอกว่าอาจารย์ไม่เหมือนชาวรัสเซียทั่วไป
ความคิดเห็นนี้เกิดจากพฤติกรรมและความสนใจของอาจารย์ในประเทศไทย ไม่ได้เกิดจากรูปลักษณ์ ซึ่งไม่เหมือนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียส่วนใหญ่ นอกจากนี้ คนไทยที่มีทัศนคติไม่ดีต่อชาวรัสเซียจะรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่ามีชาวรัสเซียที่มีการศึกษา เคารพวัฒนธรรมของประเทศไทยที่พวกเขาทำงานและอาศัยอยู่ และมีทักษะด้านภาษาที่ดี
อาชีพของอาจารย์คือการสอนซึ่งได้รับความเคารพอย่างสูงเพราะเป็นงานที่มีเกียรติและสำคัญ และคุณสมบัติของอาจารย์ก็เหมาะสมกับอาชีพนี้ นี่คือสิ่งที่อาจารย์พูดถึงตามที่ได้สนทนากับคนไทยคนหนึ่ง
สุดท้ายสิ่งที่เราคิดว่าผู้อ่านอยากทราบหลังจากอ่านบทความนี้คือ อะไรในประเทศไทยที่ทำให้รู้สึกผูกพันและอยากใช้ชีวิตที่นี่
อาจารย์ชอบภาษาไทย ความหลากหลายของวัฒนธรรมไทย และความอบอุ่นของคนไทย อาหารไทยก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อาจารย์รู้สึกผูกพัน นอกจากนี้ บรรยากาศที่เป็นมิตรและการต้อนรับอย่างอบอุ่นทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน อาจารย์ยังชื่นชอบธรรมชาติที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตที่นี่มีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น
แม้ว่าชีวิตในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติอาจมีความท้าทาย แต่ความรู้สึกนี้กลับกลายเป็นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับความรักภายในที่มอบแรงบันดาลใจและพลังในการก้าวไปข้างหน้า ขณะนี้ ในวัยนี้ อาจารย์รู้สึกเช่นนี้จริง ๆ อนาคตจะเป็นอย่างไร — ต้องรอดูกันต่อไป หากคุณมาสัมภาษณ์อาจารย์อีกในห้าปีข้างหน้า เราจะได้เห็นว่าความรู้สึกของอาจารย์เปลี่ยนไปอย่างไร (หัวเราะ)

